you are what you eat...

you are what you eat...

สารอาหารที่รับประทานคืออะไรบ้าง

โปรตีน                        = กรด    ได้จากเนื้อสัตว์  ถั่ว

คาร์โบไฮเดตร            =  กรด  แป้ง  นำ้ตาล  เผือก มัน

ไขมัน                          =  กรด    ไขมันจากพืชไขมันจากสัตว์

ผัก   ผลไม้                 =  ด่าง

น้ำเปล่า                      =    กลาง

ข้อเท็จจริงของคนรับประทานอาหารส่วนใหญ่

1. ชื่นชอบการรับประทานเนื้อสัตว์

2.ชอบรับประทานอาหารรสจัด

3.ชอบรับประทานอาหารปิ้งย่าง

4. รับประทานอาหารไม่มีประโยชน์

5.รับประทานอาหารที่มีสารเจือปนเป็นส่วนประกอบจำนวนมาก

6.ภาชนะบรรจุอาหารไม่ได้คุณภาพ

กล่องโฟม 

ในการย่อยสลายของกล่องโฟม ต้องใช้เวลา 1,000 ปี

ถุงพลาสติก

ในการย่อยสลายของกล่องพลาสติก ต้องใช้เวลา 450 ปี

หากเรารับสารเหล่านี้เข้าไป แล้วไม่มีการกำจัดออกมันจะสะสมอยู่กับเราเท่ากับอายุการย่อยสลายของมัน คือ 1,000  ปี

สารพิษร้ายจากภาชนะบรรจุอาหารพลาสติก

 * จานชามพลาสติกสีสัน
 * ถุงพลาสติก ถุงร้อนถุงเย็น
 * กล่องโฟมบรรจุอาหาร  ช้อน ถ้วย ไอศครีม
 * แก้วพลาสติก ชาเย็น กาแฟเย็น
 * ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
 * ขวดนำ้พลาสติก
อันตราย...อาหารร้อนใส่กล่องโฟม
* มะเร็งเม็ดเลือดขาว
* มะเร็งต่อมนำ้เหลือง
*มะเร็งตับ
*โลหิตจาง
* ความผิดปกติของทารกในครรภ์
*เป็นหมัน
หากรับประทานอาหารจากกล่องโฟมทุกวันติดต่อกัน 10 ปี เสี่ยงเป็นมะเร็งมากกว่าคนปกติ ถึง  6 เท่า !!! 

ในแต่ละวันเราไม่รู้เลยว่าเราได้รับสารพิษจากทางใดบ้าง ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงเบื้องต้นที่เราสังเกตเองได้ง่าย ยังมีการรับสารพิษจากทางอื่นๆ อีก ทางอากาศ สิ่งแวดล้อมต่างๆ  

ตับมีหน้าที่ในการกำจัดสารพิษ ถ้าหากในแต่ละวันร่างกายได้รับสารพิษในประมาณมาก หลายหลายชนิด และไม่สามารถกำจัดออกเองได้หมดก็จะเกิดพิษสะสม  เราจึงควรระวังและป้องกันด้วยลดการใช้ภาชนะพลาสติก และโฟมใส่อาหาร

มนุษย์ต้องมีศีลห้าเป็นที่ตั้ง

ศีลห้า

            ศีลห้าคือความปกติของการเป็นมนุษย์ 

ศีล แปลว่า ปกติ ผู้ที่มีศีลจึงหมายถึงผู้ที่เป็นคนปกติ เป็นมนุษย์ที่ปกติ ความปกตินั้นเป็น พื้นฐานของความสงบเรียบร้อยของทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งสิ่งที่มีชีวิต และสิ่งไม่มีชีวิต แต่เมื่อใดเกิดความไม่ปกติ ขึ้น ความยุ่งยาก ความเดือดร้อนหรือเสียหายย่อมเกิดขึ้นตามมา ศีลห้าจึงเป็นมหาทาน เป็นการให้ทานที่มีคุณค่ามากกว่าการให้วัตถุใด ๆ  เพราะขณะที่คนหนึ่งรักษาศีลทุกชีวิตจะได้รับประโยชน์อันมากมายมหาศาล  นั่นคือได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินทันที

 เมื่อเรารักษาศีลข้อที่ 1 คือ ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ย่อมได้ชื่อว่า ให้ชีวิต ให้ความปลอดภัยแก่ชีวิต ของสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นการให้สิ่งที่สูงค่ายิ่งกว่าทรัพย์ใด ๆ

            เมื่อเรารักษาศีลข้อที่ 2 คือ ไม่ลักทรัพย์ ย่อมได้ชื่อว่า ให้ความปลอดภัยแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น เป็นการให้ฐานะความเป็นอยู่อันมั่นคง

          เมื่อเรารักษาศีลข้อที่ 3 คือ ไม่ประพฤติผิดในกาม ย่อมได้ชื่อว่า ให้ความสุข ให้ความปลอดภัย แก่บุตร ธิดา ภรรยา สามีของผู้อื่น เป็นการให้ความคุ้มครองแก่สถาบันครอบครัวอย่างดีที่สุด

            เมื่อเรารักษาศีลข้อที่ 4 คือ ไม่กล่าวคำเท็จ ย่อมได้ชื่อว่า ให้ความจริงแก่ผู้อื่น ทำให้เกิดความ สบายใจในการดำเนินชีวิต โดยไม่ต้องหวาดระแวงซึ่งกันและกัน

           เมื่อเรารักษาศีลข้อที่ 5 คือ ไม่ดื่มสุราเมรัย ย่อมได้ชื่อว่า ให้ความปลอดภัยแก่ทุกสิ่ง เพราะคนที่ ประมาทขาดสตินั้น สามารถทำความชั่วได้ทุกอย่าง จะฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม หรือพูดเท็จก็ทำได้ทั้งสิ้น

             การรักษาศีล 5 จึงเป็นทานอันประเสริฐ   จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่มนุษย์ทุกคนควรมีศีลห้าเป็นที่ตั้ง จึงจะหล่อเลี้ยงให้โลกนี้มีแต่ความสงบร่มเย็น... 

ท่านเป็นมนุษย์แบบไหนตอนที่ 5

ท่านเป็นมนุษย์แบบไหนตอนที่5

มนุสสเทโว มนุษย์เทวดา ได้แก่มนุษย์ผู้มีศีล 5 มั่นเป็นนิตย์ แล้วยังได้พยายามบำเพ็ญกุศลเพิ่มพูนบารมีอยู่เรื่อยๆ เช่น ให้ทาน ฟังธรรม เรียนธรรม ปฏิบัติธรรม ไหว้พระสวดมนต์ มีหิริคือความละอายต่อบาป มีโอตตัปปะ คือความสดุ้งกลัวต่อผลแห่งบาปอยู่เสมอ เรียกว่าเป็นผู้มีใจสูงดุจเทวดา เพราะประกอบด้วยเทวธรรม 7 ประการคือ

-บำรงเลี้ยงมารดาบิดา
-ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อบุคคลผู้เจริญ
-พูดจาไพเราะเสนาะหู อ่อนหวาน นุ่มนวล
- ไม่พูดส่อเสียดผู้อื่น
- ละความตระหนี่เหนียวแน่น
- รักษาคำสัตย์
- ไม่โกรธ
มนุษย์ที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ ท่านขนานนามว่า มนุสสเทโว แปลว่า มนุษย์เทวดา

   การพิจารณาตนก็คือการใช้หลักความคิดอย่างมีสติอย่างมึเหตุมีผลในการดำเนินชีวิต โดยใช้หลักของศีลห้าเป็นตัวตัดสินความถูกต้อง ไม่ใช้หลักของความรู้สึก เพราะความรู้สึกยังมีตัวกิเลสเป็นเครื่องตัดสิน เช่นความโลภ ความโกรธ ความหลง

 อยากมีความสุขในการดำเนินชีวิตต้องใช้หลักของหัวใจเทวดา คือมีกายเป็นมนุษย์แต่มีหัวใจเทวดา

โปรดติดตามตอนต่อไปทำไมมนุษย์ควรมีศีลห้า

ท่านเป็นมนุษย์แบบไหนตอนที่4

ท่านเป็นมนุษย์แบบไหนตอนที่4

มนุสสภูโต มนุษย์แท้ๆ คือเป็นคนเต็มตัว ได้แก่คนรักษาศีล 5 มั่นเป็นนิตย์ไม่ขาด ไม่ประมาทต่อศีลเพราะศีลเป็นมนุษยธรรม คือเป็นธรรมประจำมนุษย์ ธรรมที่ทำให้คนเป็นคน มนุสสภูโต แปลว่ามนุษย์แท้ๆ เพราะมีคุณธรรมของคนคือศีล ศีล ท่านแปลว่า เศียร คือ หัว ถ้าคนขาดศีล ก็คือคนหัวขาดนันเอง เพราะขาดจากคุณธรรมของความเป็นคน  เมื่อไม่มีคุณธรรมไม่มีหัวก็ไม่ต่างอะไรกับมนุษย์สามจำพวกที่กล่าวมาทั้งสามข้างต้น
                                                                                       พันกนก  โชติธนอังกูร

ท่านเป็นมนุษย์แบบไหนตอนที่ 3

มนุษย์

มนุษย์สัตว์นรกหรือมนุษสสเนรยิโก  ทำไมถึงได้ชื่อว่ามนุษย์สัตว์นรก  เพราะมีลักษณะดุร้าย หยาบคาย ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต จี้ปล้นเอาทรัพย์สมบัติของผู้อื่นมาเป็นของตนโดยฆ่าเจ้าทรัพย์ตายบ้าง ทุบตีจนบาดเจ็บสาหัสบ้าง ข่มขืนแล้วฆ่าบ้าง เบียดเบียนผู้อื่น สัตว์อื่น ทรมานผู้อื่น เป็นคนไร้ศีลธรรม  ไม่มีมนุษยธรรมคือศีล 5 ประจำตัวเลย ไม่ว่าข้อใดข้อหนึ่ง  อยู่ที่ไหนก็สร้างความเดือดร้อนที่นั่น ที่เป็นมนุษย์แต่มีใจแบบนี้ เพราะเคยทุกข์ทรมานเป็นเปรตอสูรกายอยู่ในนรก พ้นจากนรก มีโอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์ยังมีเศษกรรมที่จะต้องเวี่ยนวายตายเกิดกลับไปสู่นรกภูมิอีก จึงไม่มีโอกาสศึกษาธรรมะ การจะทำให้ตนเองหลุดพ้นจากการเวี่ยนว่ายตายเกิดในนรกภูมิอีก ก็คือการใช้ศีล5 ตรวจสอบความประพฤติของตนอยู่เสมอ  นั่งภาวนาวิปัสนาอบรมจิตใจตนเอง พิจราณาถึงความเป็นจริง เป็นวิธีการปฏิบัติที่จะนำกายและใจของผู้ปฏิบัติให้เข้าถึงสภาวดับ สงบเย็น ไม่ร้อนรุ่ม ไม่อิจฉา ริษยา หรืออาฆาตแค้น

                                                                            พันกนก  โชิตธนอังกูร